เกร็ดความรู้

การใช้งานและดูแลรักษาแบตฯ Lithium อย่างถูกต้อง
11 มิถุนายน 2563 15:40 น.

แบตเตอรี่แบบ Lithium ที่พบเห็นบ่อยๆ ในปัจจุบันมีด้วยกัน 2 แบบ คือ

  1. Lithium-ion หรือตัวย่อว่า Li-ion เป็นแบตเตอรี่ที่พบเห็นมากที่สุด ถือว่าเป็นแบตเตอรี่มาตรฐานสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในทุกวันนี้
  2. Lithium-ion polymer หรือตัวย่อว่า Li-Poly เป็นแบตเตอรี่ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Li-ion โดยจะมีความจุไฟฟ้ามากว่า Li-ion ถึง 20% ในขนาดแบตเตอรี่ที่เท่ากัน แบตเตอรี่แบบนี้มีจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือมีข้อจำกัดเรื่องรูปร่างของเบตเตอรี่น้อยมาก จึงทำให้สามารถสร้างแบตเตอรี่แบบ Li-Poly ให้มีขนาดเล็กและบางได้ รวมทั้งสามารถสร้างให้มีรูปทรงแปลกๆ ที่ไม่ใช่ทรงกระบอกหรือทรงสี่เหลื่ยมเหมือนแบตเตอรี่แบบเดิมๆได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามต้นทุนการผลิตของ Li-Poly ยังจัดว่ามีต้นทุนสูง ดังนั้นความนิยมจึงยังมีไม่มากเท่าแบตเตอรี่แบบ Li-ion

การนับจำนวน Cycle นับอย่างไร?

จำนวน Cycle คือ ตัวเลขที่บ่งบอกอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ว่า แบตฯจะเริ่มเสื่อมเมื่อผ่านการชาร์ตไปนานแค่ไหน ถ้าแปลตรงๆ คำว่า cycle ก็คือรอบ คำว่ารอบไม่ได้เท่ากับคำว่าครั้ง ดังนั้นการชาร์ต 1 ครั้งจึงไม่เท่ากับ 1 cycle ซะทีเดียว

จำนวน 1Cycle จะวัดจากปริมาณการชาร์ตไฟที่รวมๆแล้ว เท่ากับปริมาณการชาร์ตไฟจากแบตเตอรี่ที่ไม่มีไฟ (0%) จนแบตเตอรี่มีไฟเต็ม (100%) 1 ครั้ง เช่น ถ้าเราชาร์ตครั้งแรกจากแบตเตอรี่ 50% => 100% การชาร์ตครั้งนี้ก็จะนับเท่ากับ 0.5 cycle หรือ ถ้าชาร์ตครั้งต่อมาอีก 80% => 100% เมื่อรวมกับครั้งแรกก็จะได้เท่ากับ 0.5 + 0.2 = 0.7 cycle

ชาร์ตไฟอย่างไรถึงจะดี?

สำหรับแบตเตอรี่แบบ Lithium สามารถชาร์ตอย่างไรก็ได้ ไม่ได้มีผลต่ออายุการใช้งาน การที่แบตเตอรี่แบบ Lithium จะเสื่อมได้นั้นเกิดจาก…

          - ใช้งานจนถึงจำนวน Cycle ที่แบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อมเองตามปกติ

          - เมื่อถึงเวลาที่แบตเตอรี่จะเสื่อมมันก็จะเรี่มเสื่อมเอง โดยนับเวลาตั้งแต่การผลิต ไม่ใช่เวลาในการใช้งาน

          - อุณหภูมิของแบตเตอรี่ ถ้าแบตเตอรี่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสูงก็จะส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าปกติ

ที่มา: http://www.techxcite.com/topic/1426.html

ข่าวสารทั้งหมด