ปัจจัยต่างๆ ที่สำคัญในการเลือกซื้อรถโฟล์คลิฟท์

เลือกรถโฟล์คลิฟท์อย่างมือโปร

ปัจจัยพื้นฐานที่เราควรเรียนรู้ก่อนที่จะทำการเลือกซื้อรถโฟล์คลิฟท์หรือเช่ารถโฟล์คลิฟท์ มีดังนี้

1. น้ำหนักของสิ่งของที่จะทำการยกหรือขนย้าย: การพิจารณาน้ำหนักของสิ่งของเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อการเลือกขนาดและความสามารถของรถโฟล์คลิฟท์ ควรคำนึงถึงน้ำหนักสูงสุดที่ต้องยกบ่อยที่สุด และน้ำหนักสูงสุดที่อาจต้องยกเป็นครั้งคราว นอกจากนี้ ควรพิจารณาถึงรูปทรงและขนาดของสิ่งของด้วย เพราะอาจส่งผลต่อการกระจายน้ำหนักบนงาของรถโฟล์คลิฟท์ การเลือกรถที่มีความสามารถในการยกเกินกว่าน้ำหนักสูงสุดที่ต้องการประมาณ 10-20% จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของรถได้
   
   
2. สถานที่ที่ใช้งาน: สภาพแวดล้อมในการทำงานมีผลอย่างมากต่อการเลือกประเภทของรถโฟล์คลิฟท์ หากเป็นพื้นที่ปิดที่มีการระบายอากาศจำกัด ควรเลือกรถไฟฟ้าเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของไอเสีย นอกจากนี้ ขนาดของทางเดินและพื้นที่ทำงานก็มีผลต่อการเลือกขนาดของรถ รถขนาดเล็กจะเหมาะกับพื้นที่แคบหรือมีการจัดวางสิ่งของอย่างหนาแน่น ในขณะที่รถขนาดใหญ่อาจเหมาะกับพื้นที่กว้างและต้องการประสิทธิภาพในการขนย้ายสูง พิกัดน้ำหนักของพื้น หากน้ำหนักของและรถรวมกันเกินพิกัด จะทำให้พื้นแตก
   
   
3. ความสูงของเสา: ความสูงของเสาเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสามารถในการยกของรถโฟล์คลิฟท์ ควรพิจารณาความสูงสูงสุดที่ต้องการยกสิ่งของ รวมถึงความสูงของชั้นวางของหรือตู้คอนเทนเนอร์ที่ต้องทำงานด้วย เสาแบบยืดหดได้ มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการทำงานในพื้นที่ที่มีความสูงของเพดานที่แตกต่างกัน สำหรับงานที่ต้องเข้าไปยกของในตู้คอนเทนเนอร์ อาจต้องพิจารณาเสาพิเศษที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถเข้าไปทำงานในพื้นที่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   
   
4. เวลาในการทำงาน: ลูกค้าแต่ล่ะเจ้า เวลาการทำงานไม่เหมือนกัน 1 กะ 2 กะ 3 กะ 8 ชม. 16 ชม. 24 ชม.
   
   
5. ระบบพลังงาน: สืบเนื่องจากข้อสถานที่ หากเป็นโรงงานแบบเปิด รถวิ่งทั้งนอกและในโรงงาน ควรจะเป็นดีเซล แต่ถ้าใช้งานเฉพาะด้านในโรงงาน เป็นควรเป็นไฟฟ้า เพื่อลดมลพิษ
   
   
6. ระบบเกียร์: การเลือกระหว่างเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและความชำนาญของผู้ขับขี่ เกียร์ธรรมดามักจะให้การควบคุมที่แม่นยำกว่าแต่ต้องการทักษะในการขับขี่สูงกว่า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูงหรือการทำงานในพื้นที่จำกัด ส่วนเกียร์อัตโนมัติจะง่ายต่อการใช้งาน ลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ และเหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องเปลี่ยนทิศทางบ่อยๆ หรือมีการหยุดและเริ่มเคลื่อนที่บ่อยครั้ง
   
   
7. อุปการณ์พิเศษอื่นๆ ที่สามารถติดตั้งได้: เช่น ที่คีบหรือที่หนีบ งาหมุน หรืองาเท เป็นต้นงาหมุนช่วยในการจัดการกับถังหรือวัสดุทรงกระบอก ส่วนงาเทเหมาะสำหรับการเทของจากภาชนะบรรจุ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ที่ดันพาเลท หรืออุปกรณ์ช่วยในการจัดเก็บสินค้าแบบพิเศษ ควรพิจารณาลักษณะของสินค้าและกระบวนการทำงานเพื่อเลือกอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสมที่สุด
   
   
8. ยี่ห้อของรถโฟล์คลิฟท์: แม้ว่าโดยทั่วไปรถโฟล์คลิฟท์ทุกยี่ห้อจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้คล้ายคลึงกัน แต่แต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางยี่ห้ออาจมีชื่อเสียงในด้านความทนทาน บางยี่ห้ออาจโดดเด่นในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม การเลือกยี่ห้อควรพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ การบริการหลังการขาย ความพร้อมของอะไหล่ และประสบการณ์ของผู้ใช้งานอื่นๆ นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงความคุ้นเคยของพนักงานขับรถกับยี่ห้อนั้นๆ ด้วย เพราะอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทำงาน
   
   

ในการเลือกซื้อหรือเช่า รถโฟล์คลิฟท์ลูกค้าควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และ สามารถปรึกษากับผู้จำหน่ายรถโฟล์คลิฟท์ GT Mover เพื่อเลือกรุ่นและอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสมที่สุดกับลักษณะการใช้งาน

ติดต่อเรา
Phone : +66(0)2 012-1800-4
Line: @gtmover
Email : info@gtm.co.th