7 ส่วนประกอบที่ทำให้รถฟอร์คลิฟท์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
12 กันยายน 2567 17:58 น.
7 ส่วนประกอบที่ทำให้รถยกโฟล์คลิฟท์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เบื้องหลังพลังยก 7 ชิ้นส่วนที่ขับเคลื่อนรถยกโฟล์คลิฟท์
รถยกโฟล์คลิฟท์ (Forklift) เป็นอุปกรณ์สำคัญในภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ที่ใช้สำหรับยกและเคลื่อนย้ายสินค้าในโรงงานและคลังสินค้า ด้วยความสามารถในการยกของหนักและขนาดใหญ่ไปยังที่สูงได้ รถยกโฟล์คลิฟท์จึงมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บของพนักงานที่อาจเกิดจากการยกของหนัก
การใช้งานรถยกโฟล์คลิฟท์อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยนั้น จำเป็นต้องมีความเข้าใจในส่วนประกอบสำคัญของเครื่องจักร ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและกลไกการทำงานของรถยกโฟล์คลิฟท์ไม่เพียงช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง แต่ยังมีส่วนสำคัญในการบำรุงรักษาและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน
บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับส่วนประกอบหลักของรถยกโฟล์คลิฟท์ที่มีความสำคัญต่อการทำงาน เพื่อให้ผู้ใช้งานและผู้ที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องและสามารถใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์นี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจกับส่วนประกอบเหล่านี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานภายในโรงงานและคลังสินค้า
ทำความรู้จักส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้รถยกโฟล์คลิฟท์ (Forklift) สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เสารถยก (Mast)
เสารถยก เป็นส่วนประกอบหลักของการใช้งาน ใช้สำหรับยืดหดเพื่อยกหรือวางชิ้นงานบนที่ต่างๆ โดยจะมีความสูงแตกต่างกันไปตามขนาดหรือประเภทของรถ รถยกส่วนใหญ่ในท้องตลาดจะยกได้สูงไม่น้อยกว่า 3 เมตร แต่ก็จะมีรถยกบางประเภทที่มีเสารถยืดได้ถึง 5-6 เมตร เสารถยกมักประกอบไปด้วยชุดเสา 2-3 ท่อน สไลด์ขึ้นลงและขับเคลื่อนด้วยชุดโซ่และกระบอกไฮดรอลิก เสารถยกมักจะแยกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ
- เสา 2 ท่อนธรรมดา (2-stage Limited Free Lift Mast)
- เสา 2 ท่อนแบบมี Free Lift (2-stage Full Free Lift Mast) ซึ่งมีระยะยกโดยที่หัวเสาไม่ยกตาม เหมาะสำหรับใช้งานภายในตู้คอนเทนเนอร์
- เสา 3 ท่อนแบบมี Free Lift (3-stage Full Free Lift Mast) ซึ่งมีหัวเสาต่ำกว่า และความสามารถในการยกสูงกว่าเสา 2 ท่อน
- ชุดโครงเหล็กหลังคาป้องกันภัยเหนือที่นั่งคนขับ (Overhead Guard)
อุปกรณ์ในส่วนนี้มีไว้เพื่อป้องกันสิ่งของหล่นใส่พนักงานขับรถ หรือกรณีขับไปชนสิ่งของที่วางไว้บนที่สูงจะได้ไม่หล่นทับคนขับรถฟอร์คลิพท์ ซึ่งเป็นส่วนที่จะต้องมีความแข็งแรงมาก
- คันบังคับต่างๆ (Control Valve / Spool Valve)
คันบังคับต่างๆ เช่น คันบังคับยก, เอียง, กระดก, และอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อใช้บังคับการยก การจัดวางงาให้ไปตำแหน่งที่ต้องใช้งานได้อย่างแม่นยำ สำหรับรถที่มีการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ เช่น ตัวหนีบหรืองาหมุน จะมีคันบังคับเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถควบคุมอุปกรณ์พิเศษได้อย่างอิสระ
- ล้อหลัง (Rear Wheel)
ล้อหลังของรถฟอร์คลิฟท์มีหน้าที่สำคัญในการบังคับทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ ทั้งการบังคับเลี้ยว เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายของไปยังบริเวณที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ
- ล้อหน้า (Front Wheel)
ล้อหน้าของรถฟอร์คลิฟท์ มีหน้าที่อยู่ 3 อย่าง คือ
- ใช้รับน้ำหนักบรรทุก ดังนั้น จึงต้องมีความแข็งแรงทนทานและอยู่ในสภาพดี
- ใช้ในการขับเคลื่อนไปยังที่ต่างๆ
- ใช้ในการเบรกล้อของรถยกไฟฟ้าแบบยืนขับ
- กระบอกไฮดรอลิก (Hydraulic)
กระบอกไฮดรอลิกของรถฟอร์คลิฟท์ส่วนใหญ่มีอยู่จำนวน 3 ชุด คือ
- กระบอกยก คือ กระบอกไฮดรอลิกที่ทำหน้าที่ยกงาขึ้นลง
- กระบอกคว่ำ-หงาย คือ กระบอกไฮดรอลิกที่ทำหน้าที่เอียงเสาไปหน้าและหลัง
- กระบอก Reach คือ กระบอกไฮดรอลิกที่ทำหน้าที่เคลื่อนเสาหรือชุดงาเข้าหรือออกห่างจากตัวรถ เพื่อเข้าถึงสินค้าที่อยู่บนชั้นวาง (สำหรับรถ Reach Truck เท่านั้น)
- งารถยก (Forks)
ใช้สำหรับยกสินค้าต่างๆ ซึ่งมีความอันตราย จึงต้องระมัดระวังในการใช้งานเป็นอย่างมาก ผู้ขับและผู้ร่วมงาน จึงต้องมีความชำนาญ ควรเลือกขนาดงาให้เหมาะสมกับน้ำหนักและขนาดของสินค้าที่จะยก หลีกเลี่ยงการใช้งาที่สั้นหรือยาวเกินกว่าตัวสินค้าเพื่อป้องกันอุบัติเหตุหรือสินค้าเสียหาย อุปกรณ์สำคัญต่างๆ นี้ ทำให้รถฟอร์คลิฟท์ถูกขับเคลื่อนไปได้ และใช้งานในการยกของได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ควรใช้งานอย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย
เมื่อคุณได้ทำความรู้จักส่วนประกอบสำคัญของรถฟอร์คลิฟท์แล้ว การใช้งาน และบำรุงรักษารถฟอร์คลิฟท์ก็จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ นอกจากนี้รถฟอร์คลิฟท์ของคุณก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ติดต่อเรา
Phone : +66(0)2 012-1800-4
Line: @gtmover
Email : info@gtm.co.th
