High voltage forklift รถยกโฟล์คลิฟท์แรงดันไฟฟ้าสูง คืออะไร? ดีอย่างไร?

รถยกโฟล์คลิฟท์แรงดันไฟฟ้าสูง มากกว่าแค่รถยกของ แต่คือการลงทุนที่คุ้มค่า

ในอุตสาหกรรมหลายแห่งที่มีการใช้งานรถยกโฟล์คลิฟท์ (Forklift) อาจจะต้องเคยพบเจอปัญหาที่ Forklift ธรรมดาทั่วไป มีแบตเตอรี่ที่สามารถทำงานได้ในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง อีกทั้งการชาร์จแบตเตอรี่ก็ยังกินเวลายาวนานหลายชั่วโมงกว่าที่จะสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ทำให้ดูเหมือนว่าสำหรับธุรกิจบางประเภทที่ต้องเน้นการแข่งขันกับเวลาเป็นพิเศษ การใช้งาน Forklift ธรรมดาก็อาจจะยังดูไม่ตอบโจทย์มากนัก ซึ่งทำให้ในปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนานวัตกรรม Forklift ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่าง “High voltage forklift” ที่ยกระดับการทำงานให้ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจของคุณอย่างมีคุณภาพเลยทีเดียว

High voltage forklift รถยกโฟล์คลิฟท์แรงดันไฟฟ้าสูง คืออะไร?

High voltage forklift หรือรถยกโฟล์คลิฟท์แรงดันไฟฟ้าสูงนั้นได้ถูกพัฒนาการใช้งานพลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม ผ่านการใช้แบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงอย่าง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันไฟฟ้าสูง (High voltage Lithium ion High) ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องความรวดเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ สามารถเก็บประจุไฟฟ้า (Energy Density) ได้มากขึ้น จ่ายไฟได้อย่างเสถียรและคงที่ ซึ่งชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันสูงนี้ได้รับการออกแบบให้ใช้เคมีของลิเธียมเหล็ก ฟอสเฟต (LiFePO4) โดยเคมีตัวนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเคมีที่ปลอดภัยที่สุดและประหยัดพลังงานมากที่สุดที่พบในเทคโนโลยีลิเธียมไอออนในปัจจุบัน มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเมื่อเปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบเก่า

และในขณะเดียวกันก็มีการลดการใช้งานกระแสไฟฟ้าให้ต่ำลง ซึ่งจะทำให้สามารถใช้งานสายไฟขนาดที่เล็กลงได้ เมื่อกระแสไฟฟ้าน้อยลง จะส่งผลให้อุณหภูมิความร้อนและการสูญเสียของพลังงานในขณะใช้งานก็ลดน้อยลงตามไปด้วย นอกจากนี้ยังสามารถมั่นใจในความปลอดภัยได้ทั้งผู้ขับขี่และผู้ปฏิบัติงานโดยรอบ เนื่องจาก High voltage forklift นี้ได้รับการติดตั้งคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Interlocks และ Insulation Monitoring พร้อมกับมีระบบฟังก์ชัน MSD Maintenance Switch ที่จะเข้ามาช่วยให้ปิดการกำลังไฟได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว และยังได้รับการจัดอันดับคุณสมบัติการป้องกันจากน้ำและฝุ่นอยู่ที่ IPX4 และ IP67 High voltage forklift สามารถเปรียบเทียบได้เสมือนกับรถยนต์ EV (Electric Vehicle) ที่ได้รับการยกระดับประสิทธิภาพในเรื่องแบตเตอรี่ให้สามารถชาร์จไฟได้ในปริมาณที่มากยิ่งขึ้น ชาร์จได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งจะเข้ามาแก้จุดอ่อนของรถไฟฟ้ารุ่นเก่า ๆ ที่ต้องเสียเวลาการชาร์จเป็นระยะเวลานานกว่าที่จะพร้อมสำหรับการใช้งานนั่นเอง

ความแตกต่างระหว่าง Low Volt กับ High Volt Forklift

สำหรับความแตกต่างระหว่าง Low Volt กับ High Volt Forklift นั้นสิ่งที่เห็นได้ชัดสุดก็คือในเรื่องของการใช้แบตเตอรี่ในการทำงาน โดยสำหรับ Low Volt Forklift ทั่วไปนั้นมักจะเลือกใช้แบตเตอรี่แรงดันตั้งแต่ 48 - 80V ที่มักจะพบเห็นได้ในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบเก่า ซึ่งจะเหมาะกับการใช้งานที่ไม่ต้องการพลังงานสูงมากนัก อย่างเช่นการขนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลางและการใช้งานในระยะไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการจ่ายพลังงานจากแบตเตอรี่ที่ไม่สูงนัก ทำให้อาจจะกินเวลาในการชาร์จ 2 - 4 ชั่วโมงต่อครั้ง

ทั้งนี้จะเหมาะกับการทำงานที่ต้องการความต่อเนื่องไม่นานนักอย่างเช่นในโกดังขนาดเล็กถึงกลาง หรือ การขนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลาง แต่ในขณะเดียวกัน สำหรับ High Volt Forklift นั้นจะเลือกใช้แบตเตอรี่แรงดันสูงตั้งแต่ 300 - 650V ที่สามารถพบได้ในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันสูง ซึ่งได้ถูกเพิ่มประสิทธิภาพในการจ่ายพลังงานได้มากกว่า อีกทั้งยังใช้เวลาในการชาร์จที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยสามารถชาร์จได้เร็วสุดเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น เรียกได้ว่าหากเปรียบเทียบกับ Low Volt Forklift แล้ว Hight Volt Forklift สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้ประมาณ 40% ในรอบการใช้งานต่อครั้งเลยทีเดียว นอกจากนี้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันสูงยังไม่ต้องการดูแลบ่อยครั้ง เนื่องจากมีระบบจัดการพลังงานที่จะช่วยควบคุมการทำงานของแบตเตอรี่มาด้วยอยู่แล้ว ทำให้ High Volt Forklift นี้จะเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความต่อเนื่องเป็นหลัก อย่างเช่นการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้าขนาดใหญ่

8 ข้อดีของการเลือกใช้งานรถยกโฟล์คลิฟท์ High voltage forklift ในอุตสาหกรรม

• เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน High voltage forklift สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน เนื่องจากมีระบบการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่า Forklift รุ่นทั่วไป อีกทั้งยังมีการส่งผ่านพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าของ High voltage forklift นั้นสามารถทำงานได้ด้วยความเร็วและกำลังที่สูงขึ้น ความเร็วในการขับเคลื่อนสูงถึง 21 - 21.5 กม./ชม. นอกจากนี้ยังมีความเร็วในการยกที่เพิ่มประสิทธิภาพอยู่ที่ 17.1 - 19.7 นิ้ว/วินาที ช่วยให้การยกและขนย้ายของหนักเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  
  
• ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ลดลง High voltage forklift ที่เลือกใช้งานแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงอย่างเช่น แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันสูง จะช่วยทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น สามารถชาร์จพลังงานได้เต็มภายในระยะเวลาน้อยสุดเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งหากเปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแบบเดิมนั้นเรียกได้ว่าเร็วกว่าถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
  
  
• อายุการใช้งานยาวนาน แบตเตอรี่ลิเธียมไออนที่มักจะนิยมใช้ใน High voltage forklift นั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนธรรมดาที่ใช้ใน Forklift ทั่วไป ด้วยเทคโนโลยีการจัดการพลังงาน (Battery Management System, BMS) สามารถเก็บรักษาความจุแบตเตอรี่ได้มากกว่า 75% ซึ่งจะช่วยเข้ามาควบคุมและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานถึง 10 ปี ด้วย 8000 รอบการชาร์จ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
  
  
• สร้างเสียงรบกวนน้อย High voltage forklift นั้นจะมีการทำงานที่เงียบกว่า Forklift แบบใช้เครื่องยนต์สันดาป ซึ่งจะทำให้มีการสร้างเสียงรบกวนที่น้อยมาก ทำให้เหมาะกับการนำ High voltage forklift นี้ไปใช้งานในอุตสาหกรรมและโรงงานที่มีพื้นที่ติดกับอาคารสำนักงาน หรืออาจจะติดกับพื้นที่อยู่อาศัย ช่วยลดผลกระทบทางเสียงต่อผู้ปฏิบัติงานและสิ่งแวดล้อมโดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  
  
• ต้องการบำรุงรักษาน้อย High voltage forklift นั้นไม่จำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษามากเหมือนกับ Forklift ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป เนื่องจากมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า ทำให้เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือเช็กระดับน้ำมันบ่อย ๆ อีกทั้งระบบไฟฟ้าของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันสูงใน High voltage forklift นั้นยังมีความเสถียรและความน่าเชื่อถือในระดับสูง ซึ่งจะเข้ามาช่วยลดภาระในการดูแลรักษาและการซ่อมบำรุงได้อย่างมีคุณภาพ
  
  
• เหมาะสมกับทุกพื้นที่การใช้งาน High voltage forklift เรียกได้ว่าเหมาะสมกับการใช้งานทุกพื้นที่เลยก็ว่าได้ และโดยเฉพาะภายในอาคารพื้นที่ขนาดใหญ่ เนื่องจากจะไม่มีการปล่อยไอเสียหรือมลพิษทางอากาศ อีกทั้งยังมีการทำงานที่เงียบ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีการปล่อยก๊าซที่เป็นอันตรายต่อผู้คนโดยรอบ เหมาะในการนำไปใช้งานในพื้นที่หลากหลายเช่น คลังสินค้า อุตสาหกรรมอาหารและยา หรือจะเป็นโรงงานที่มีมาตรฐานความสะอาดสูงได้เช่นเดียวกัน
  
  
• มีความปลอดภัยต่อการใช้งานสูง High voltage forklift มีระบบไฟฟ้าแรงดันสูงที่มีมาตรฐานความปลอดภัยรองรับ ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมและป้องกันการลัดวงจร ระบบการจัดการพลังงานที่จะเข้ามาช่วยป้องกันการเกิดความร้อนที่เกินกว่าปกติและการชาร์จเกินกำลัง อีกทั้งยังมีระบบเบรกไฟฟ้าและประสิทธิภาพการควบคุมที่แม่นยำสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานในการลดความเสี่ยงแก่การเกิดอุบัติได้เป็นอย่างดี
  
  
• ปล่อยมลพิษทางอากาศน้อย เนื่องจาก High voltage forklift นั้นใช้พลังงานไฟฟ้าแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอซซิล ซึ่งจะทำให้ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศ ช่วยลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังสอดคล้องกับมาตรการลดการปล่อยมลพิษในภาคอุตสาหกรรมเช่นเดียวกัน

จะเห็นได้ว่า High voltage forklift นั้นจัดเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาน้อยสุดเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานหลายชั่วโมง และยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันสูงนี้ยังมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาบ่อยครั้ง อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้งานได้หลายพื้นที่เลยทีเดียว และหากเราต้องการใช้งาน High voltage forklift ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด แนะนำว่าควรปรึกษากับผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง จะช่วยให้เราได้รับคำตอบที่ตรงกับความต้องการ สามารถใช้งาน High voltage forklift ได้อย่างมั่นใจอย่างแน่นอน

สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาผู้ให้บริการรถยกโฟล์คลิฟท์ High voltage forklift คุณภาพ การเลือกใช้บริการกับ GT MOVER ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะเราเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รถยก รถลาก อุปกรณ์ขนย้าย มั่นใจได้ถึงมาตรฐานผลิตภัณฑ์และการบริการด้วยประสบการณ์มากกว่า 40 ปี นอกจากนี้เรายังมีทีมขายมืออาชีพ ทีมวิศวกรที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ในเรื่องการออกแบบและการซ่อมบำรุง สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างประทับใจ ตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานเลยทีเดียว

ติดต่อเรา
Phone : +66(0)2 012-1800-4
Line: @gtmover
Email : info@gtm.co.th