การลดมลพิษจากการใช้โฟล์คลิฟท์ลิเธียม และบทบาทของกฎหมาย Carbon Credit

การใช้โฟล์คลิฟท์ลิเธียมในธุรกิจของคุณมีผลต่อการลด Carbon Credit ได้อย่างไร?

Carbon Credit คืออะไร?
คาร์บอนเครดิต หมายถึง (Carbon Credit) หน่วยที่ใช้ในการวัดและซื้อขายสิทธิ์ในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) หรือก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ที่เทียบเท่ากับคาร์บอนหนึ่งตัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งระบบการซื้อขายคาร์บอนเครดิตถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้องค์กรและบริษัทลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านกลไกทางการเงินที่บริษัทจะเสียมากขึ้นหากยังมีการปล่อยคาร์บอนมากขึ้น นั่นเอง

แล้ว “โฟล์คลิฟท์ลิเธียม” จะเข้ามาช่วยลดปริมาณคาร์บอนได้อย่างไร?

จากข้อมูลของ banpunext.co.th ได้แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่ส่งผลให้เกิดที่มาของคาร์บอนฟุตพริ้นต์ที่มากที่สุด 3 อันดับแรกจากรายงานของสถาบันประเมินความยั่งยืนระดับโลก (Carbon Disclosure Project: CDP) เมื่อพ.ศ. 2566 พบว่า อุตสาหกรรมซีเมนต์ (79%) และอุตสาหกรรมเหล็ก (67%) และอันดับ 3 ก็คืออุตสาหกรรมบริการขนส่งสินค้า (64%) เพราะการใช้ยานพาหนะที่มาจากน้ำมันเชื้อเพลิงนั่นเอง

โฟล์คลิฟท์ลิเธียม คือหนึ่งเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยให้ธุรกิจการขนส่งและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะต้องใช้รถยกโฟล์คลิฟท์ในการเคลื่อนย้ายหรือขนส่งสิ่งของชิ้นใหญ่ในโกดังสินค้าหรือหน้างานต่างๆ ด้วยการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเธียมที่มีอัตราการสูญเสียพลังงานต่ำ กว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ เช่น แบตเตอรี่ Nickel-Cadmium (Ni-Cd) หรือ Nickel-Metal Hydride (Ni-MH) ที่นอกจากจะช่วยให้คาร์บอนฟุตพริ้นต์ที่เกิดจากการเผาไหม้เครื่องยนต์ให้ลดลงได้แล้ว ก็ยังช่วยให้ธุรกิจของคุณประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย

รู้หรือไม่? ว่าการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์อย่างไรบ้าง

• การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming)
  
  
• ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ เพราะการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงจะผลิตก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂) ซึ่งสามารถทำให้เกิดฝนกรด (acid rain) และสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ และฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM2.5 และ PM10 ซึ่งปล่อยจากการเผาไหม้สามารถก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์
  
  
• ผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำ เพราะการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์อาจปล่อยสารประกอบอินทรีย์และโลหะหนักลงสู่แหล่งน้ำ ทำให้เกิดมลพิษและเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ
  
  
• การเสื่อมสภาพของดิน ซึ่งเป็นผลกระทบของฝนกรดที่เกิดจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์สามารถทำให้ดินเสื่อมสภาพ เพราะมีความเป็นกรดสูงทำให้ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช
  
  
• ผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ เช่น ฝุ่นPM2.5 สามารถทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด, หลอดลมอักเสบ,โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, โรคหัวใจขาดเลือด, หลอดเลือดสมองตีบและโรคมะเร็ง อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ทำให้เกิดความผิดปกติในการทำงานของสมองได้ด้วย

การลด Carbon Footprint ที่ภาครัฐและเอกชนควรให้ความสำคัญ

1. การพัฒนาและส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน เช่น การเลือกใช้พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, พลังงานชีวมวลหรือพลังงานไฟฟ้าในครัวเรือน อาคารพาณิชย์และโรงงาน รวมถึงยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้าขนส่งและขับขี่ เช่น โฟล์คลิฟท์ลิเธียม
   
   
2. การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เช่น การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน อย่างการใช้ระบบแสงสว่าง LED, ระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงหรือยานพาหนะที่ช่วยประหยัดพลังงานได้
   
   
3. การส่งเสริมการปลูกป่าและการอนุรักษ์ป่าไม้ อย่างการสนับสนุนโครงการปลูกป่าเพื่อดูดซับคาร์บอนและฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกทำลาย หรือโครงการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกทำลาย เป็นต้น
   
   
4. การส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles) เพราะการใช้รถที่ใช้ในธุรกิจหรืออุตสาหกรรม เช่น การใช้โฟล์คลิฟท์ลิเธียมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในการขนย้ายหรือขนส่งสินค้าและสิ่งของ เป็นต้น
   
   
5. การส่งเสริมการใช้วัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่มีคาร์บอนต่ำ เช่นของความร่วมมือกับคนองค์กรเรื่องการใช้กระดาษ 2 หน้า หรือเปลี่ยนแพ็คเกจจิ้งจากพลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้เป็นพลาสติก PE, PET หรือ PP ที่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ รวมถึงการเลือกใช้กระดาษแทนพลาสติก เป็นต้น

ประโยชน์ของการเข้าร่วมโครงการ Carbon Credit ที่บริษัทจะได้รับ

✔️ ช่วยประหยัดต้นทุนให้ธุรกิจของคุณ : การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสามารถช่วยให้บริษัทลดต้นทุนพลังงานและทรัพยากรได้

✔️ สามารถเป็นแหล่งรายได้เสริมให้กับบริษัท : เพราะหากบริษัทของคุณมีอัตราคาร์บอนเครดิตต่ำกว่าที่กำหนด ก็สามารถขาย Carbon Credit ที่ได้รับจากการลดการปล่อยก๊าซได้โดยขายให้กับบริษัทอื่นๆ ในโครงการที่ต้องการชดเชยการปล่อยก๊าซเกินกว่ากำหนดได้นั่นเอง

✔️ การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสาธารณชน : การมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการสนับสนุนสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทหรือองค์กรของคุณ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจจากลูกค้าและผู้ถือหุ้นของคุณได้

✔️ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคิดค้นและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในองค์กร : เช่น โฟล์คลิฟท์ลิเธียม ที่มีความพิเศษกว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าจากการชาร์จแบตเตอรี่ที่ช่วยคุณประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่า อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุนในระยะยาวของคุณได้

✔️ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน : เพราะบริษัทที่มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้บริโภคที่มีความตระหนักและใส่สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นจุดแข็งของธุรกิจคุณที่จะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

แนวทางสำคัญของการลด Carbon Credit ของการทำธุรกิจในปัจจุบัน

1. การวางแผนและดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมของคุณ : เริ่มจากการกำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับองค์กร จากนั้นค่อยปรับให้บริษัทหรือองค์กรมาใช้เทคโนโลยีสะอาดในกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
   
   
2. การสร้างความตระหนักและการมีส่วนร่วมของคนในองค์กร : เช่น การให้ข้อมูลและความรู้กี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพกับคนในองค์กร หรือการจัดโครงการเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนในองค์กรต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น โครงการปลูกป่าในชุมชน การใช้พลังงานหมุนเวียนในครัวเรือน เป็นต้น
   
   
3. การพัฒนานโยบายและมาตรการที่ใช้ในองค์กร : อย่างการรณรงค์ใหคนในองค์กรปิดไฟปิดแอร์ตอนพักเที่ยง, การใช้กระดาษรีไซเคิลหรือกระดาษทั้งสองหน้า, การเลือกซื้อเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติในการผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมของคุณ หรือแม้กระทั่งการใช้รถพลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น การใช้โฟล์คลิฟท์ลิเธียมในการขนส่งขนย้ายสินค้าในโกดังของคุณ เป็นต้น

ในปัจจุบันประเทศไทย ก็ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับ Carbon Credit เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การเข้าร่วมในตลาดคาร์บอนระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงการจัดตั้งโครงการพลังงานหมุนเวียน เช่น โครงการแผงโซลาร์เซลล์ โครงการปลูกป่าและโครงการรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้จะช่วยให้การทำธุรกิจและอุตสาหกรรมในประเทศไทยสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไปได้

โฟล์คลิฟท์ลิเธียม ดีต่อธุรกิจหรืออุตสาหกรรมของคุณอย่างไร

แบตเตอรี่ลิเธียม (Lithium-ion Battery) มีข้อดีหลายประการที่ทำให้ได้รับความนิยมใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา รถยนต์ไฟฟ้า และระบบเก็บพลังงานไฟฟ้า เพราะมีข้อดีหลายประการ เช่น :

✔️ ความจุพลังงานสูง : แบตเตอรี่ลิเธียมมีความจุพลังงานสูงเมื่อเทียบกับน้ำหนักและขนาด ทำให้สามารถใช้งานในอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานมากแต่มีพื้นที่จำกัดได้ดี

✔️ อายุการใช้งานยาวนาน : โฟล์คลิฟท์ลิเธียมที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมมีอายุการใช้งานที่ยาวนานเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ โดยทั่วไปสามารถชาร์จและใช้งานได้หลายรอบก่อนที่จะเสื่อมสภาพ

✔️ การสูญเสียพลังงานต่ำ : แบตเตอรี่ลิเธียมมีอัตราการสูญเสียพลังงานต่ำกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ เช่น แบตเตอรี่ Nickel-Cadmium (Ni-Cd) หรือ Nickel-Metal Hydride (Ni-MH) จึงช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายจากค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น

✔️ ไม่ต้องบำรุงรักษามาก : แบตเตอรี่ลิเธียมไม่ต้องการการบำรุงรักษาเป็นพิเศษ การใช้งานและการบำรุงรักษาจึงไม่ซับซ้อนมาก

✔️ ประสิทธิภาพการชาร์จได้รวดเร็ว : โฟล์คลิฟท์ลิเธียมสามารถชาร์จได้เร็วกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ทำให้สะดวกในการใช้งานโดยเฉพาะในอุปกรณ์ที่ต้องการความเร็วในการชาร์จ

✔️ ความปลอดภัยสูง : แบตเตอรี่ลิเธียม มีระบบป้องกันความร้อนเกิน การชาร์จเกิน และการลัดวงจร ทำให้ใช้งานได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

✔️ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : เพราะแบตเตอรี่ลิเธียมไม่มีส่วนประกอบที่เป็นพิษมากเท่ากับแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ เช่น แบตเตอรี่ Nickel-Cadmium (Ni-Cd) อีกทั้งยังใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นพลังงานสะอาดมากกว่าการใช้นำมันเชื้อเพลิง

การเลือกใช้โฟล์คลิฟท์ลิเธียม เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพาองค์กรของคุณเข้าสู่โครงการ Carbon Credit เพราะเป็นเครื่องมือและอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้บริษัทของคุณลด Carbon ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ก็ยังมีประโยชน์ที่ช่วยให้องค์กรของคุณประหยัดค่าใช้จ่ายแต่ก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับท่านที่กำลังมองหารถยกโฟล์คลิฟท์ที่ใช้ไฟฟ้า GTM คือผู้ผลิต-ขายรถโฟล์คลิฟท์ รถยกโฟล์คลิฟท์ รถแฮนด์ลิฟท์ รถลากพาเลท (Pallet Trucks) ขนาดเล็กจนถึงรถโฟล์คลิฟท์ลิเธียม รถยกขนาดใหญ่ แบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ ยางรถโฟล์ค​ลิ​ฟท์ และอุปกรณ์ขนย้าย มาตรฐานสากลแบรนด์ GT Mover พร้อมศูนย์บริการครบวงจร มีทีมงานออกแบบและซ่อมบำรุงโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ

ติดต่อเรา
Phone : +66(0)2 012-1800-4
Line: @gtmover
Email : info@gtm.co.th